เมล็ดมะเขือเทศลูกท้อ หลากสี 200 - 300 เมล็ด ***ศึกษาวิธีการเพาะได้ในรายละเอียดสินค้า***
เมล็ดพันธุ์ มะเขือเทศลูกท้อ
อุณหภูมิที่เหมาะสมในการงอกคือ 16-28 ̊C
อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตคือ15-28 ̊C (กลางวัน) 15-28 ̊C(กลางคืน)
#.1 เมล็ดมะเขือเทศลูกท้อ Z.S. #4 Tomato สายพันธุ์ OP
จำนวนเมล็ด 3 กรัม
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 150-200 กรัม/ผล 4-6ผล/พวง
วันที่ผลิต : ก.พ. 2564 (อายุในการเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
ต้านทานโรค ปลูกง่าย ผลไม่แตก ทนต่อการขนส่ง เนื้อหนา รสชาติดี เหมาะสำหรับเป็นพันธุ์การค้า ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 9500กก. ระยะปลูก 60*35ซม. การออกดอกช่อแรกจะอยู่ระหว่างข้อที่8-9 หลังจากนั้น จะออกดอกทุก2-3ข้อใบ
#.2 เมล็ดมะเขือเทศลูกท้อ ผลใหญ่ สายพันธุ์ OP
จำนวน 3 กรัม
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 200+กรัม/ผล
วันที่ผลิต : ก.พ. 2564 (อายุในการเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
เป็นสายพันธุ์หนัก ต้านทานโรค ปรับตัวง่าย ผลไม่แตก ทนต่อการขนส่ง เนื้อหนา ผลสีชมพู รสชาติดี หวานอมเปรี้ยว เหมาะสำหรับเป็นพันธุ์การค้า ระยะปลูก 50*35ซม. ผลผลิตต่อไร่ประมาณ12000กก.
#.4 เมล็ดมะเขือเทศลูกท้อ สีเหลือง ผลใหญ่ สายพันธุ์ OP
จำนวน 200 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 250กรัม/ผล
วันที่ผลิต : ก.พ. 2565 (อายุในการเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
เป็นสายพันธุ์หนัก ต้านทานโรค ผลทรงแป้น เนื้อหนา ผลสีเหลืองส้ม รสชาติดี หวานอมเปรี้ยว ระยะปลูก 40*50 ซม. ผลผลิตสูงถึง 10500 กก./ไร่
#.6 เมล็ดมะเขือเทศลูกท้อ สีเหลืองแต้มแดง ผลใหญ่ สายพันธุ์ F1
จำนวน 300 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
อายุเก็บเกี่ยว : 112-115 วัน
น้ำหนักผล : 100-150 กรัม/ผล
วันที่ผลิต :
ลักษณะประจำพันธุ์:
เป็นสายพันธุ์เบา-กลาง พันธุ์เลื้อย ต้านทานโรค ผลทรงแป้น เนื้อหนา ผลสีเหลืองส้ม มีแต้มแดงที่ปลายผล รสชาติดี ความหวาน ระยะปลูก 70*30 ซม. ไว้2เถาหลัก ทำค้างจัดเถา
#.7 เมล็ดมะเขือเทศลูกท้อ สีเขียว ผลใหญ่ สายพันธุ์ OP
จำนวน 300 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
อายุเก็บเกี่ยว : 120 วัน
น้ำหนักผล : 200กรัม/ผล
วันที่ผลิต : ม.ค. 2564 (อายุในการเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
เป็นสายพันธุ์กลาง ต้านทานโรค ติดผลได้ดี ผลทรงกลม ผลสีเขียว รสชาติดี หวานอมเปรี้ยว ผลผลิตสูง 10500 กก./ไร่ ระยะปลูก 70*35 ซม. ไว้กิ่งแขนง2แขนง ผลผลิตต่อไร่ประมาณ10500กก.
จากการวิจัยของนักโภชนาการพบว่าการบริโภคมะเขือเทศสดวันละ 50 กรัม -100 กรัมต่อคน สามารถตอบสนองความต้องการของร่างกายมนุษย์สำหรับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มะเขือเทศมีสาร ไลโคปีน ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งแบคทีเรียกรดมาลิกกรดซิตริกและน้ำตาลที่มีอยู่สามารถช่วยในการย่อยอาหาร มะเขือเทศอุดมไปด้วยสารอาหารและมีหน้าที่มากมายซึ่งเรียกว่าผลไม้แห่งจานวิเศษ กรดอินทรีย์เช่นกรดมาลิกและกรดซิตริกในมะเขือเทศยังเพิ่มความเป็นกรดของน้ำย่อยช่วยย่อยอาหารและปรับการทำงานของระบบทางเดินอาหาร มะเขือเทศมีกรดผลไม้ซึ่งสามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอลและเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาวะไขมันในเลือดสูง มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินเอวิตามินซีวิตามินบีวิตามินบีแคโรทีนแคลเซียมฟอสฟอรัสโพแทสเซียมแมกนีเซียมเหล็กสังกะสีทองแดงและไอโอดีนนอกจากนี้ยังมีโปรตีน้ำตาลกรดอินทรีย์
วิธีการเพาะกล้า
1. การบ่มเมล็ด : นำเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ แช่ในน้ำอุ่น 50 องศา ผสมน้ำยาเร่งรากแบบเจือจางและเชื้อราไตรโคเดอร์มา (ป้องกันโรคจากเชื้อรา) แช่ทิ่งไว้ 30นาที นำเมล็ด (ไม่ควรวางหนาแน่นเกินไป) มาวางในกระดาษเพาะกล้าหรือผ้าขาวบางชุบน้ำมาดๆ แล้วจึงห่อเมล็ดห่อกระดาษเพาะเมล็ดอีกครั้งด้วยถุงพลาสติกใสหรือถุงใส่แกง เก็บในที่อุณหภูมิ 28- 30 องศาเซลเซียส โดยใส่ในภาชนะที่มิดชิด เช่น กระติกน้ำเพื่อรักษาอุณหภูมิ นานประมาณ 24 ชั่วโมง
2. การเพาะกล้า : บรรจุวัสดุเพาะกล้า (พีทมอส) ลงในถาดเพาะกล้าขนาด 104 หลุม ไม่แน่นเกินไป รดน้ำให้ชุ่ม นำเมล็ดจากข้อ 1.3 มาหยอดลงในถาดเพาะโดยวางให้เมล็ดอยู่ในแนวนอนทำมุมประมาณ 45 องศา และปลายรากแทงลงวัสดุเพาะ ระวังอย่าให้รากอ่อนของเมล็ดหักหรือแห้ง กลบด้วยวัสดุเพาะกล้า แล้วกดทับเบาๆ รดน้ำให้ชุ่ม นำไปเก็บในโรงเรือนเพาะกล้า หรือบริเวณที่มีแสงแดด รดน้ำทุกวัน เพื่อให้วัสดุเพาะกล้าชุ่มอยู่เสมอ จนอายุกล้าได้ 25-30 วัน
3. การย้ายกล้า : ควรย้ายกล้าเมื่อมีใบแท้ 4-5 ใบ หรืออายุไม่เกิน 25-30 วัน หลังจากหยอดเมล็ด